การเพิ่มประสิทธิภาพและการปรับแต่งใน Freemarker สำคัญเพื่อให้เว็บแอปพลิเคชันทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุดและรองรับความต้องการของผู้ใช้งาน. นี่คือคำแนะนำและทิปสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและการปรับแต่ง:

1. การใช้ Template Cache:

เปิดใช้งานการแคชของ template ทำให้การอ่าน template จากแหล่งข้อมูล (เช่น ไฟล์) ไม่ต้องเกิดขึ้นซ้ำๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ.

Configuration ใน Freemarker มีการแคช template เปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น.

2. การจำกัดการเข้าถึง Object:

ควรจำกัดการเข้าถึง object ใน template ไปเฉพาะ object ที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ปลอดภัย.

3. การใช้ Lazy Loading:

หากมีข้อมูลที่ไม่จำเป็นต้องโหลดทุกครั้งที่เรียก template, ควรใช้การโหลดข้อมูลแบบ lazy loading.

4. การปรับแต่ง Configuration:

ปรับค่า incompatibleImprovements เป็นเวอร์ชัน Freemarker ที่ใหม่ล่าสุดที่คุณใช้.

กำหนดค่า defaultEncoding เป็น "UTF-8" หรือ encoding ที่คุณใช้.

5. การปรับแต่ง Template Loader:

ใช้ ClassTemplateLoader หรือ WebappTemplateLoader สำหรับ web applications.

สำหรับการแยก templates ออกเป็นหลายส่วนหรือ modules, ใช้ MultiTemplateLoader.

6. การป้องกันการอินเจคโค้ด:

อย่าไว้วางใจข้อมูลที่มาจากผู้ใช้โดยตรง และใช้การ escape หรือการทำลายข้อมูล (sanitize) เสมอ เพื่อป้องกันการอินเจคโค้ด.

7. การปรับแต่ง Template Update Delay:

ในสภาพแวดล้อม production, ควรเพิ่มค่า templateUpdateDelay เพื่อลดความถี่ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ template.

8. การปรับแต่ง Error Handling:

กำหนด TemplateExceptionHandler เป็น RETHROW_HANDLER หรือ handler ที่กำหนดเอง เพื่อจัดการกับข้อผิดพลาดอย่างเหมาะสม.

การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Freemarker จะช่วยในการสร้าง web applications ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น.